ได้ไปเจอกระทู้ในพันทิปเรื่อง The Big Short ว่าหนังสนุกแต่ไม่ค่อยเข้าใจเนื้อหาภายในภาพยนต์เท่าไหร่ เลยเข้าไปตอบไว้ ส่วนตัวค่อนข้างชอบภาพยนต์เรื่องนี้ด้วย เลยคิดว่ามาแปะไว้ให้อ่านในเวบด้วยดีกว่านะครับ
ส่วนตัว ภาพยนต์เรื่อง The Big Short ดูนานมากๆละ ผมเล่าแบบสรุปคร่าวๆ+เทียบเคียงแบบเข้าใจง่ายๆให้นึกภาพตามได้แล้วกันนะครับ เพราะรายละเอียดในหนังมันค่อนข้างเยอะ แล้วเครื่องมือทางการเงินในเมกามันล้ำหน้ากว่าในไทย แต่ถ้าในแง่ของสินทรัพย์มันจะคล้ายๆกัน เอาเป็นว่าอ่านเอาสนุกละกันนะครับ อย่ายึดถืดเป็นข้อเท็จจริง(เพราะส่วนตัวริวเองก็เชื่อว่าในหนังเองก็ปรุงแต่งหลายอย่าง(เนื่องจากทำงานด้านการเงินบางอย่างในหนังเลยรู้สึกว่าเกินความจริงไปหน่อย แต่ชอบประเด็นที่หนังนำเสนอนะครับ)
ในหนังจะมีกลุ่มที่ได้ประโยชน์ 3 กลุ่ม
คนแรกเป็น ผจก เฮดจ์ฟัน คนนี้เก่งจริงเพราะเค้าไปเจอช่องโหว่วตัวนึงในสินทรัพย์ที่เรียกได้ว่าไม่มีทางขาดทุนได้เลย แต่กลายเป็นว่า ข้างนอกสุกใส ข้างในเน่าเฟะ เค้าเลยไปหาข้อมูลเพิ่มเติมจนมั่นใจ แล้วเลยไปเปิดดีลกับ ธ. หลายๆที่เพื่อพยายามทำกำไรจากหลักทรัพย์ตัวนี้ (คนนี้คือคริสเตียน เบล)
กลุ่ม2 ในหนังจะเริ่มที่มี จนท จากธนาคารแห่งหนึ่งนำข้อมูลอินไซเดอร์เกี่ยวกับหนี้เสียของหลักทรัพย์ตัวหนึ่งมาขาย ซึ่งถ้าเป็นความจริง คนที่ได้ข้อมูลนี้ไปจะสามารถทำกำไรได้มหาศาลจากข้อมูลตัวนี้ โดยเค้าเอาข้อมูลไปนำเสนอให้เฮจฟันด์ต่างๆที่สนใจซื้อข้อมูลตัวนี้ โดยมีหลายคนปฏิเสธ แต่มีคนนึงที่สนใจแล้วไปหาข้อมูลต่อ (ถ้าจำไม่ผิดคนขายข้อมูลคือ ไรอัน กอซลิ่ง คนสนใจข้อมูลคือสตีฟ เคอเรล ปมในหนังเพิ่มเติม สตีฟ เคอเรลเคยมีญาติฆ่าตัวตายจากเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้ในอดีต เป็นปมที่ทำให้สตีฟเคอเรลมาเช็คข้อมูลนี้เพิ่มมากขึ้น)
เกร็ดการลงทุน ในไทยเราจะเคยชินกับการซื้อขายกองทุนหรือหุ้นด้วยตัวเอง แต่ในเมกาจะนิยมใช้บริการ เฮดจ์ฟัน เพราะเอาเงินไปให้เฮดจ์ฟันดูแลเค้าจะเอาเงินเราไปต่อยอดการลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยไม่ได้จำกัดแค่การลงทุนแค่หุ้นหรือกองทุนนะครับ ลงทุกอย่างที่มีโอกาสทำกำไรได้ แต่แน่นอนว่ากำไรได้ก็ขาดทุนได้เช่นกัน ในไทยก็กำลังจะมีการให้จัดตั้งเฮดจ์ฟันอย่างเป็นทางการเช่นกันนะครับ
กลุ่ม3 จำได้เลือนลางแต่เหมือนบังเอิญไปได้ข้อมูลมาแล้วก็เลยเอาข้อมูลไปปรึกษาแบรดพิท แล้วก็ไปปิดจบดีลได้(ข้ออภัยกลุ่มนี้จำรายละเอียดไม่ค่อยได้จริงๆ)
คราวนี้จะอธิบายภาพรวมว่าทำไมมันจึงเกิดวิกฤตินี้ขึ้นมาได้
จุดเริ่มต้น จะเป็นเรื่องการปล่อยกู้เพื่อที่อยู่อาศัย ในส่วนนี้ปกติไม่ได้มีปัญหาอะไร แน่นอนว่าการปล่อยกู้เพื่อที่อยู่อาศัยนั้นมีความปลอดภัยสูงและทำกำไรได้เยอะ เพราะดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกช่วงแรกดอกเยอะต้นน้อยคนปล่อยรับดอกเต็มๆ ถ้าคนกู้มีปัญหาก็ยึดอสังหาคืนได้ ดังนั้นเป็นโอกาสทำกำไรแบบมีสินทรัพย์ค้ำที่โคดสบาย ธ. ชอบ(แหง๋)
พอเห็นโอกาสทำกำไรแบบนี้ก็เลยมีคนหัวใส ไปทำหลักทรัพย์ที่คล้ายๆกับกองทุนขึ้นมา(พูดง่ายๆเอาเงินคนอื่นมาลงทุนสิจะใช้เงินตัวเองทำไม) โดยกองทุนนี้จะลงทุนเข้าไปในสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะ แล้วก็เอามาขาย ถ้าว่าตามหลักการจะเห็นว่า กองนี้มันต้องดีสิ เพราะกำไรจากดอกเบี้ยแถมมีหลักทรพย์ค้ำประกันด้วย คนก็แห่กันซื้อ นำไปสู่ฟองสบู่ลูกที่1 เพราะพอคนแห่กันซื้อ เงินในกองทุนมันจะมีเยอะมากๆ ถ้าธนาคารที่ขายกองทุนไม่ปล่อยสินเชื่อ กองก็จะทำกำไรไม่ได้เพราะไม่มีดอกเบี้ย+สินทรัพย์ใหม่ๆเข้ามาเติม ดังนั้น ธ.ยิ่งต้องทำยอดปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมาล้อตามขนาดกองทุนที่มันใหญ่ขึ้นด้วย นำไปสู่การปล่อยกู้แบบเทกระจาด คือกู้มาเหอะอยากปล่อย…
เกร็ดในหนัง
จะมีการจัดสัมมนาเก็งกำไรช่วยคนมากู้ซื้อบ้านเพื่อเก็งกำไร
อาชีพที่ไม่น่าจะกู้ซื้อบ้านได้ ดันกู้ได้ แถมกู้ซื้อได้มากกว่า 1 หลังอีกต่างหาก
ซึ่งถือเป็นตัวเร่งให้ฟองสบู่มันโตอีกจุดนึง
พอหลักทรัพย์กองทุนเพื่อที่อยู่อาศัยมันขายดี ก็มีคนหัวใสคิดผลิตภัณฑ์ขึ้นมาอีก ซึ่งตัวนี้จะคล้ายๆอนุพันธ์ คือเกิดขึ้นมาเพื่อเทรดมูลค่าในอนาคตของกองทุนหลักทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยอีกที ถามว่าเสี่ยงมั้ย ตัวนี้โคดเสี่ยงเลย เพราะตัวนี้ไม่มีหลักทรัพย์อ้างอิง แต่เนื่องจากมันเป็นหลักทรัพย์ที่ไปเทรดมูลค่าของหลักทรัพย์ที่(คนเข้าใจว่า)มันไม่มีทางขาดทุนมันเลยเกิดมูลค่าซื้อขายขึ้นมา แต่ปลายทางเมื่อไหร่ก็ตามที่หลักทรัพย์อ้างอิงมันด้อยมูลค่าลง หลักทรัพย์ตัวนี้จะกลายเป็นอากาศทันที (ผมเข้าใจว่าตัวนี้คือตัวที่สตีฟ เคอเรลเข้าไปชอททำกำไรนะครับ ไม่แน่ใจดูนานละเลือนลางมากๆครับ)
ส่วนของคริสเตียน เบล (ตามความเข้าใจผม) เข้าไปทำกำไรจากสัญญาออปชั่น กับธนาคารต่างๆ โดยเล่นเรื่องมูลค่าของหลักทรัพย์กองทุนเพื่อที่อยู่อาศัย ฟลังจากนั้นหนังก็ค่อยๆดำเนินไปสู้จุดที่ฟองสบู่มันแตกแล้วก็บทสรุปของแต่ละกลุ่มนะครับ
เขียนสะยาวไม่แน่ใจว่าตอบประเด็น จขกท. มั้ย หวังว่าน่าจะช่วยให้ดูหนังสนุกขึ้นครับ มีผิดพลาดอะไรตรงไหนขออภัยไว้ล่วงหน้าครับ^^
