เป็นคำถามคลาสสิกที่ทุกคนสงสัยนะครับ
ปกติทุกคนจะมีสิทธิ์พื้นฐานในเรื่องของค่ารักษาพยาบาลอยู่แล้วนะครับ สิทธิ์ใดสิทธิ์หนึ่งระหว่าง
- สิทธิ์เบิกตรงของข้าราชการ
- สิทธิ์ประกันสังคม กรณีเป็นพนักงานบริษัท
- สิทธิ์ประกันสุขภาพถ้วนหน้าสำหรับบุคคลทั่วไปหรือเจ้าของกิจการ
สิ่งที่เราต้องตอบเป็นอย่างแรกก็คือ เราโอเคกับการใช้สิทธิ์พื้นฐานของเราหรือเปล่าครับ เนื่องด้วนสิทธิ์ดังกล่าว อาจจะต้องมีการรอในการใช้สิทธิ์เป็นเวลานาน หรือ อาจจะไม่สะดวกสบาย เท่าที่ควร ถ้าเราต้องการความสะดวกสบายในการรักษาพยาบาลเป็นอย่างแรก สิทธิ์พื้นฐานข้างต้นอาจจะไม่สามารถตอบโจทย์ให้เราได้ครับ เราก็ควรทำประกันสุขภาพเอาไว้ใช่แบ่งเบาภาระค่าใขเจ่ายในการรักษาพยาบาลได้ครับ และหากเป็นไปได้ก็ควรศึกษาเพิ่มเติมว่าเราสามารถใช้สิทธิ์ร่วมกันได้หรือไม่ด้วยนะครับ เพราะจะสามารถช่วยให้เราวางแผนการใช้งานและสามารถประหยัดค่าเบี้ยประกันได้อีกด้วยครับ
แต่ในกรณีที่เราไม่ได้รู้สึกว่าการใช้สิทธิ์การรักษาพื้นฐานของเรานั้นสร้างความลำบากให้ชีวิตเราเท่าไหร่ เราก็ไม่จำเป็นต้องทำประกันสุขภาพก็ได้ครับ เราก็ออมเงินสักก้อนไว้ใช้จ่ายพวกค่าความสะดวกหรือยานอกที่ไม่ครอบคลุมไว้สักก้อนนึง แนะนำว่าควรมีสัก 5แสนสำหรับเงินก้อนนี้ถ้าให้ดีหรือเป็นไปได้สำรองไว้สัก 2 ล้านครับ
เพื่อที่จะได้มีเงินเหลือเอาไว้เก็บออมไว้ใช้ในส่วนอื่นๆได้ไม่ว่าจะเป็นเงินเพื่อการเกษียณหรือเงินใข้จ่ายเพื่อการอื่นก็จะสามารถทำได้ง่ายขึ้นครับ
แต่มีประกันอันหนึ่งที่ริวแนะนำว่าจำเป็นต้องซื้อติดตัวไว้เลยครับคือประกันในส่วนของค่าชดเชยกรณีตรวจพบโรคร้ายแรง ประมาณว่าเพื่อไว้เป็นยันต์กันผีจ่ายไปทุกปีโรคร้ายจะได้ไม่มากล่ำกลาย
หรือถ้าแจ็คพอทถูกหวยมะเร็งก็เป็นโชคดีในโชคร้ายซื้อหวยไม่เคยถูกแต่ทำไมเป็นมะเร็งง่ายจัง ถ้าเจอจริงจะได้มีตังไว้ใช้จ่ายค่ารักษา หรือไว้ใข้อำนวยความสะดวกตอนรักษามะเร็งได้ครับ
บ่อยครั้งที่ริวแนะนำลูกค้าเรื่องเงินชดเชยจำนวนนี้ ลูกค้ามักจะคิดไว้ว่าไม่จำเป็น หรือว่าทำไว้สักแสนสองแสนก็พอ ริวบอกเลยว่าอย่าทำต่ำกว่าล้านนะครับ เพราะค่าใช้จ่ายในการรักษาก็ส่วนหนึ่ง อย่าลืมว่าเราต้องมีค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิตด้วย ถ้าเราเป็นมะเร็งจริงๆ เราคงไม่ตั้งหน้าตั้งตารักษามะเร็งได้อย่างเดียวหรอกครับเพราะโลกมันจะมืดมนหดหู่สำหรับเรา ดังนั้นก่อนรักษาก็ออกไปแตะขอบฟ้ากันก่อนเลย เป็นมะเร็งแล้วทำค่าชดเชยเผื่อไว้ไปเที่ยวรอบโลกก่อนรักษาหรือหลังรักษากันด้วยนะครับ เราจะได้มีกำลังใจ
ลองกำลังใจเราดีอะไรก็สู้ได้หมดครับ^^
ในส่วนของการวางแผนประกัน ถ้าจะให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดก็ควรทำพร้อมกับการวางแผนภาษีด้วยนะครับ ยิ่งตอนนี้ประกันสุขภาพสามารถใช้ในการลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาทด้วยก็ถือเป็นโอกาสดีที่ไม่ควรพลาดนะครับ^^
สนใจซื้อประกันกับที่ปรึกษาการเงิน เราให้คำปรึกษาฟรี กรุณาแจ้งข้อมูลติดต่อกลับ
